เล่าสู่กัน(3)

        หน้านี้จะพูดถึง การเขียนรายงานการพัฒนานวัตกรรม หรือ รายงานการใช้นวัตกรรม ตามแต่จะเรียกกัน แต่ก็คงไม่ลงลึกถึงรายละเอียด เพราะคงจะเล่ากันแบบละเอียดจริง ๆ ไม่ได้ เพื่อนครูสามารถหาอ่านแบบละเอียดจากเอกสารทางวิชาการ หรือ ผลงานทางวิชาการที่มีผู้จัดทำไว้แล้วจะดีกว่า  จะขอเล่าภาพรวมกว้าง ๆ ที่เคยเจอ อีกอย่าง  อยากบอกว่า  เล่าสู่กันจากประสบการณ์ที่ได้อ่าน ได้ฟัง ได้ทำมาเท่านั้น รูปแบบต่าง ๆ ที่เจอแต่ละสำนักก็ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว เราชอบใจแบบไหนก็ใช้แบบนั้น

        การเขียนรายงาน คือการเขียนบรรยายสิ่งที่เราทำมาทั้งหมด ตั้งแต่ เริ่มต้นจนถึงผลการใช้สื่อ/นวัตกรรม โดยนำรูปแบบการเขียนรายงานการวิจัยมาเป็นแนวทาง ซึ่งสามารถเขียนได้ทั้ง 4 บท หรือ 5 บท(ส่วนใหญ่เราจะเห็นกัน 5 บท)  ในการใช้ชื่อ ผู้เขียนมีเหตุผลอย่างหนึ่งที่ไม่อยากใช้คำว่ารายงานการวิจัย เนื่องจาก รายงานการวิจัย มีรูปแบบ(ทางวิชาการ)ที่เราต้องระมัดระวัง  ต้องใช้รูปแบบ,คำพูดให้ถูกต้อง  ถ้ารู้ไม่จริงอาจผิดพลาดได้  แต่หากว่าเรามั่นใจ หรือผ่านการเรียนรู้ในเรื่องนี้มาอย่างชัดเจนก็ไม่เป็นปัญหา

        ส่วนประกอบของรายงาน(ตามลำดับ)

            ปกนอก(หน้าปก)
                คือปกแข็งด้านนอกสุด ชื่อเรื่องถ้ายาวเกิน 1 บรรทัด นิยมเขียนให้เป็นรูปจั่วกลับ
           
รองปก
                กระดาษเปล่า ๆ ที่รองทั้งปกหน้าและปกหลัง
           
ปกใน
                เหมือนปกนอกแต่ใช้กระดาษสีขาวธรรมดา
           
บทคัดย่อ(ถ้ามี คือไม่มีก็ได้)
            คำนิยม(ถ้ามี)
            คำนำ
                เหตุผลที่จัดทำ รายงานกล่าวถึงอะไรบ้าง ทำมาอย่างไร ทำแล้วเกิดประโยชน์อย่างไร
           
ประกาศคุณูปการ(ถ้ามี)
            สารบัญ
                ส่วนนี้มักจะต้องทำหลังจากส่วนอื่น ๆ เสร็จ และกำหนดหน้าเรียบร้อยแล้ว
           
สารบัญตาราง
                บางที่เรียกบัญชีตาราง ไล่ไปตามลำดับ(ไม่แยกบท) ถ้ามีตารางไม่มาก ไม่จัดให้มีก็ได้
           
สารบัญภาพประกอบ(ถ้ามี)

            บทที่ 1
                บทนี้กล่าวถึง บทนำ ภูมิหลัง ความเป็นมา(เรียกต่าง ๆ กัน) ที่ต้องมีก็คือ ปัญหา วัตถุประสงค์
            บทที่ 2
                บทนี้นำเสนอข้อมูลจากแหล่งความรู้ที่เรานำมาเป็นแนวทางในการดำเนินงาน  ซึ่งจะต้องเรียบเรียงคำพูดของเราเชื่อมโยงไปยังข้อมูล เอกสารที่เรานำมาอ้างอิงโดยวิธีการที่นิยมกันขณะนี้คือการแทรกในเนื้อหา บทนี้ต้องใช้ศิลปะในการนำเสนอพอสมควร
           
บทที่ 3
                บทนี้กล่าวถึงกระบวนการ ขั้นตอนการสร้าง/พัฒนา ตั้งแต่เริ่มลงมือทำ-ทดลองใช้-พัฒนา-หาประสิทธิภาพ-ทดลองใช้-ไปจนถึงการใช้จริง กับใคร ที่ไหน เมื่อไร
ผลเป็นอย่างไร ใช้สถิติอะไร
            บทที่ 4
                กล่าวถึงผลที่เกิดขึ้นจากบทที่ 3  ส่วนใหญ่นำเสนอในรูปข้อมูล
           
บทที่ 5
                บทสรุปจากบทที่ 1 - 4  และมีการอภิปรายผลจากการใช้หรือพัฒนา รวมทั้งข้อเสนอแนะ
                (ถ้าจัดทำ 4 บท จะรวมบทที่ 3 - 4 เข้าด้วยกัน....แต่บางตำราบอกว่า รวม บทที่ 1-2 หรือ 4-5 เข้าด้วยกัน ทั้งนี้ให้ดูปริมาณของเนื้อหา)

           
ใบบอกหน้า(หรือหน้าบอกตอน)
                เป็นกระดาษสีอื่น พิมพ์ที่กึ่งกลางจากทุกด้านด้วยตัวหนาว่า  บรรณานุกรม
           
บรรณานุกรม
                ศึกษารูปแบบการเขียนให้ดี เขียนให้เป็นแนวเดียวทั้งเล่ม
            ใบบอกหน้า(หรือหน้าบอกตอน)
               
เป็นกระดาษสีอื่น พิมพ์ที่กึ่งกลางจากทุกด้านด้วยตัวหนาว่า  ภาคผนวก  ก  ข  ค....
            ภาคผนวก
                ก  ข  ค...เช่น คำแนะนำเพิ่มเติม ข้อมูลต่าง ๆ ที่เราเห็นว่าสำคัญแต่ไม่ได้นำเสนอไว้ในบทที่ 1- 5 ไม่ควรมากมายนักเอาเฉพาะที่สำคัญ และภาคผนวกสุดท้ายที่ควรมีคือ ประวัติของผู้เขียน หรือ คณะทำงาน(ถ้าทำกันหลายคน) เพื่อคนอ่านจะได้รู้ว่า เราเป็นใคร อยู่ที่ไหน มีภูมิรู้ขนาดไหน  ทุกภาคผนวกก็ควรมีใบบอกหน้า
            รองปก
            ปกนอก(ปกหลัง)

                        การเขียนรายงานให้ได้ดีต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ กล่าวคือต้องเขียนให้คนอ่านแล้วสามารถมองเห็นภาพขั้นการในการดำเนินงานจริง ๆ  มีวิธีการใช้ภาษา
(ที่เป็นวิชาการ)ของเราเอง หล่อหลอมกับข้อมูลต่าง ๆ อย่างสละสลวย ฟังดูแล้วต่อเนื่อง ไม่สับสน วกวน  ความสามารถเหล่านี้จะได้มาจากการอ่านแบบสะสม  จึงควรอ่านหนังสือมาก ๆ โดยเฉพาะประเภทผลงานทางวิชาการที่มีผู้จัดทำไว้แล้วและมีคุณภาพ อีกส่วนหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงก็คือ รูปแบบการพิมพ์ ควรหาหนังสือเกี่ยวกับคู่มือการเขียนรายงานไว้สักเล่มสองเล่ม หรือหาทางเข้ารับการอบรมกับหน่วยงาน หรือคณะบุคคลที่เชื่อถือได้

                        ยังมีเทคนิควิธีการที่จะเล่าสู่กันในโอกาสต่อไป  อย่างที่บอกไว้ตอนต้น เรื่องเล่านี้ เล่าจากประสบการณ์ อาจมีข้อบกพร่อง ตกหล่น หากผู้อ่านท่านใดมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม นับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งครับ

หน้าที่ 2 ::: หน้าที่ 3 ::: หน้าที่ 4 ::: หน้า 5